การประยุกต์ใช้ EM แบบน้ำ

การใช้ EM แบบน้ำ เป็นการใช้ EM หัวเชื้อโดยตรง และนำ EM หัวเชื้อ ไปประยุกต์เป็น EM ขยาย, สารขับไล่แมลง, ฮอร์โมน ฯลฯ

                                                 

            1. EM หัวเชื้อ ใช้ประโยชน์ได้ทุกอย่าง แต่บางกรณีควรใช้ EM ขยายแทน ยกเว้นในเรื่องการเลี้ยงสัตว์ การใช้ในครัวเรือน และเพื่อการหมักทุกชนิดให้ใช้ EM หัวเชื้อ ซึ่งจะมีรายละเอียดการใช้เฉพาะเรื่องนั้นๆ ต่อไป

            2. EM ขยาย เป็นการปลุกจุลินทรีย์ที่อยู่ในสภาพพักให้ตื่นขึ้น โดยการให้อาหาร ทำให้เพิ่มจำนวนเซลล์มากขึ้นๆ
            วิธีทำ กรณีที่จะขยายในภาชนะ 1 ลิตร (ภาชนะที่ใช้ต้องมีฝาปิดสนิท) ใส่น้ำครึ่งลิตร เติม EM และกากน้ำตาล อย่างละ 40 ซีซี (4 ฝา หรือ 4 ช้อนแกง) เขย่าให้ละลาย แล้วเติมน้ำให้เต็ม ปิดฝาให้แน่น หมักไว้ 7 วัน แล้วนำไปใช้ได้ และควรใช้ให้หมดภายใน 7 วัน

            หมายเหต
            1. น้ำต้องสะอาด เช่น น้ำฝน น้ำบ่อ หากเป็นน้ำประปาต้องใส่ภาชนะ เปิดฝาไว้ประมาณ 1 วัน เพื่อให้คลอรีนระเหย
            2. ภาชนะที่ใช้ในการหมักควรเป็นภาชนะที่ไม่แตกง่าย เนื่องจากจะเกิดแรงดันในระยะที่หมัก และต้องมีฝาที่ปิดสนิท เช่น ฝาเกลียว หากภาชนะไม่มีฝา ใช้พลาสติกคลุม ยางรัดแน่น
            3. คำว่า “ฝา” หมายถึง ฝาแกลลอน EM ขนาด 1 ลิตร

 


                                                   

 EM 5 หรือสุโตจู
          EM5 หรือสุโตจู เป็นสารป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืช ฉีดพ่นเป็นประจำ พืชจะสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีแมลงศัตรูพืชรบกวน

ส่วนผสม

1.  EM                           1    ส่วน
2.  กากน้ำตาล                1    ส่วน
3.  น้ำส้มสายชูกลั่น 5 %  1    ส่วน
4.  เหล้า 35-40 ดีกรี       1    ส่วน
5.  น้ำสะอาด                  6    ส่วน

ส่วน ยึดตามภาชนะที่ใช้ตวง ภาชนะหมัก หากทำในปริมาณไม่มาก สามารถใช้ขวดน้ำอัดลมได้ แต่ควรมีลักษณะเป็นฝาเกลียว ปิดสนิท อากาศเข้าไม่ได้

วิธีทำ กรณีที่จะขยายในภาชนะ 1 ลิตร (ภาชนะที่ใช้ต้องมีฝาปิดสนิท) ใส่น้ำครึ่งลิตร เติมกากน้ำตาล น้ำส้มสายชู เหล้า และ EM อย่างละ 100 ซีซี (10 ฝา หรือประมาณครึ่งแก้ว) เขย่าให้ละลาย แล้วเติมน้ำให้เต็ม ปิดฝาให้แน่น หมักไว้ 15 วัน แล้วนำไปใช้ได้

*ต้องใช้ให้หมดภายใน 3 เดือน

วิธีใช้ ผสมน้ำ 1,000 เท่า (น้ำ 10 ลิตร ใช้ EM5 1 ฝา) ฉีดพ่น
            - พืชผัก ทุก 5-7 วัน
            - ไม้ดอก ทุก 7-10 วัน
            - พืชไร่ พืชสวน ทุก 15 วัน
            หากมีแมลงศัตรูพืชมาก ฉีดพ่นให้บ่อยขึ้น

หมายเหตุ

            1. ถ้าเป็นพืชใบแข็งใช้อัตราส่วน 500 เท่า (น้ำ 10 ลิตร ใช้ EM5 2 ฝา)
            2. สามารถใช้ร่วมกับสมุนไพรต่างๆ เช่น สะเดา ตะไคร้หอม ได้
            3. ควรฉีดพ่นช่วงก่อนค่ำ หรือเช้าตรู่
            4. สารเอสเทอร์ที่เกิดจากการหมัก EM5 จะทำให้ระบบการย่อยอาหารของแมลงศัตรูพืชไม่สามารถทำงานได้ ทำให้ท้องอืดตาย
            5. สามารถผสมสารจับใบ เช่น กากน้ำตาล นมสด น้ำว่านหางจระเข้ ใน อัตราส่วนเท่ากับ EM5 ได้


                                                   

ซูเปอร์ EM5 เป็นสารป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชเฉพาะกิจ แทน EM5 ในช่วงที่แมลงลงมาก หรือหมัก EM5 ไม่ทัน ใช้เป็นสารกดใบอ่อน และใช้ ในด้านการประมง การเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งการกำจัดเหา เห็บ หมัด รังแค ด้วย

ส่วนผสม 

1.  EM                           1       ส่วน
2.  กากน้ำตาล                1       ส่วน
3.  น้ำส้มสายชูกลั่น 5 %  1       ส่วน
4.  เหล้า 35-40 ดีกรี       2       ส่วน

ส่วน ยึดตามภาชนะที่ใช้ตวง ภาชนะหมัก หากทำในปริมาณไม่มาก สามารถใช้ขวดน้ำอัดลมได้ แต่ควรมีลักษณะเป็นฝาเกลียว ปิดสนิท อากาศเข้าไม่ได้

วิธีทำ กรณีที่จะขยายในภาชนะ 1 ลิตร (ภาชนะที่ใช้ต้องมีฝาปิดสนิท) เติมกากน้ำตาล น้ำส้มสายชู และ EM อย่างละ 200 ซีซี (1 แก้ว) และเหล้า 400 ซีซี (2 แก้ว) เขย่าให้ละลาย ปิดฝาให้แน่น หมักไว้ 24 ชั่วโมง แล้วนำไปใช้ได้

*ต้องใช้ให้หมดภายใน 3 เดือน

วิธีใช้

            1. ผสมน้ำ 1,000 เท่า (น้ำ 10 ลิตร ใช้ซูเปอร์ EM5 1 ฝา) ฉีดพ่นช่วงที่มีแมลงศัตรูพืชมาก
            2. ใช้กดใบอ่อนระยะผลิดอกออกผล เกิดใบอ่อน ผสมน้ำ 1 : 500 เท่า (น้ำ 10 ลิตร ใช้ซูเปอร์ EM5 2 ฝา)
            3. ใช้แก้ปัญหาการประมง เช่น กรณีมีโรคระบาด หรือมีอาการผิดปกติของสัตว์น้ำ ใช้ซูเปอร์ EM5 ไร่ละ 3-5 ลิตร (ขึ้นอยู่กับอาการของโรค)
            4. ใช้กำจัดเหา เห็บ หมัด และแมลงต่างๆ ที่เป็นอันตราย รวมถึงรังแคของสุนัข ผสมน้ำ 50 เท่า (น้ำ 10 ลิตร ใช้ซูเปอร์ EM5 1 แก้ว) อาบ หรือฉีดพ่น
            5. สามารถใช้ร่วมกับสมุนไพรต่างๆ เช่น สะเดา ตะไคร้หอม ได้
            6. สามารถผสมสารจับใบ เช่น กากน้ำตาล นมสด น้ำว่านหางจระเข้ ในอัตราส่วนเท่ากับซูเปอร์ EM5 ได้

 


                                                 

สารสกัดพืชหมัก (EM F.P.E.)

          สารสกัดพืชหมัก (EM Fermented Plant Extract) มีคุณภาพเป็นปุ๋ย ฮอร์โมน และภูมิต้านทานโรค เป็นการนำยอดพืชที่อายุยืน แมลงไม่ชอบ โดยเก็บก่อนถูกแสงอาทิตย์ หรือเป็นพืชอื่นๆ ที่ยังอ่อนอยู่ เช่น หญ้า หน่อไม้ ผลไม้ เป็นต้น ให้ได้หลายๆ ชนิด มาหมักใช้ประโยชน์แทน EM5 ได้

ส่วนผสม

1.  ยอดพืชหลายชนิด หน่อไม้ หญ้า หรือผลไม้อ่อน(หล่น)  10  ลิตร
2.  น้ำสะอาด          10  ลิตร (ท่วมพอดี)
3.  EM                 100  ซีซี (ครึ่งแก้ว)
4.  กากน้ำตาล      100  ซีซี (ครึ่งแก้ว)
5.  น้ำทะเล หรือเกลือแกง (ถ้ามี)  1  ช้อน
อัตราส่วน โดยประมาณ

วิธีทำ
            - สับหรือหั่นพืชที่ เป็นส่วนผสมให้ละเอียด ใส่ภาชนะหมัก 10 ลิตร เติมน้ำอีก 10 ลิตร (ท่วม พอดี)
            - เติมกากน้ำตาล 100 ซีซี หรือประมาณครึ่งแก้ว
            - เติม EM 100 ซีซี หรือประมาณครึ่งแก้ว
            - เติมน้ำทะเล 100 ซีซี เท่ากัน หากไม่มีเติมเกลือแกง 1 ช้อน
            - คนให้เข้ากันแล้วปิดไม่ให้อากาศเข้าออกได้ หมักไว้ไม่น้อยกว่า 7 วัน กรองแยกน้ำและกาก ออกจากกัน กากนำไปฝังเป็นปุ๋ย น้ำใส่ภาชนะปิดฝาเก็บไว้ใช้ 

วิธีใช้ ผสมน้ำ 500 เท่า (น้ำ 10 ลิตร ใช้ EM F.P.E. 2 ฝา) พ่นได้ทุกระยะ
            - ผัก 3-5 วัน/ครั้ง
            - ไม้ดอก 7-10 วัน/ครั้ง
            - ไม้ยืนต้น พืชไร่ นา เดือนละ 2 ครั้ง

ประโยชน์ เป็นปุ๋ย เป็นฮอร์โมน ทำให้ขั้วเหนียว ผลโต ยาว รสดี และมี ภูมิต้านทานโรค แมลงศัตรูพืชได้ดี ในการหมักนำพืชสมุนไพรผสมด้วยก็ได้

*ต้องใช้ให้หมดภายใน 3 เดือน

 


                                               

ฮอร์โมนผลไม้
ฮอร์โมนผลไม้ เป็นฮอร์โมนธรรมชาติที่มีคุณภาพสูง สามารถเรียกราก ดอก ผลได้ดี ผลสวย รสดี และมีคุณภาพเป็นปุ๋ยด้วย โดยใช้ผลไม้สีเหลือง โดยเน้นผลไม้หาง่าย ราคาต่ำ คุณภาพดี

ส่วนผสม

1.  กล้วยน้ำหว้าสุก    2      ก.ก.
2.  มะละกอสุก          2      ก.ก.
3.  ฟักทองแก่จัด       2     ก.ก.
4.  น้ำ                    10     ลิตร
5.  EM                   40      ซีซี
6.  กากน้ำตาล        40      ซีซี

วิธีทำ
            - สับหรือหั่นผลไม้ทั้งเปลือก ทั้งเมล็ด ให้มีขนาดเล็ก
            - นำใส่ภาชนะหมัก
            - เติมน้ำสะอาด กากน้ำตาล และ EM ให้เต็มพอดี
            - คนให้เข้ากัน ปิดฝา
            - หมักไว้ไม่น้อยกว่า 7 วัน เปิดฝา ออกจะพบไขมันสีเหลืองลอยหรือติดด้านข้างภาชนะหมัก ใช้ช้อนตักใส่ภาชนะ เก็บไว้ใช้เป็นฮอร์โมนเรียกราก สำหรับกิ่งตอน กิ่งชำ
            - กรองแยกกาก - น้ำ ออกจากกัน 

            กาก นำไปเป็นปุ๋ย (ฝังดิน) หรือผสมเป็นอาหารสัตว์ อาหารปลา
            น้ำ บรรจุภาชนะไว้ใช้ เก็บได้นานไม่เกิน 3 เดือน

วิธีใช้
            - ผสมน้ำ 500 เท่า (น้ำ 10 ลิตร ใช้ฮอร์โมนผลไม้ 2 ช้อน) พ่นระยะก่อนผลิดอกต่อเนื่องกระทั่งติดผลเล็กๆ
            - ไม้ให้ผลผลิตตลอดปี พ่นทุก 15 วัน ตลอดไป
ข้อสังเกต
            ไม่ควรนำไปใช้กับผักกินใบ และพืชระยะกำลังเจริญเติบโต เพราะจะทำให้ผลิดอกเร็ว

 


                                                 

ฮอร์โมนและสารเสริมอื่นๆ
         ยังมีอินทรียวัตถุอีกหลายชนิดที่สามารถนำมาหมักเป็นปุ๋ยหรือฮอร์โมน ที่มีประโยชน์ต่อพืชได้ เช่น ปลา ไส้ปลา หัวปลา หอยเชอรี่ รกสุกร ไข่ นมสด ฯลฯ นำมาหมักกับ EM โดยใช้ EM 1 % กากน้ำตาล 2 % คือ กรณีที่จะหมักในภาชนะ 10 ลิตร ใส่อินทรียวัตถุและน้ำ เติมกากน้ำตาล 200 ซีซี (1 แก้ว) EM 100 ซีซี (ครึ่งแก้ว) ให้พอดีกับภาชนะ หมักไว้ไม่น้อยกว่า 7 วัน แล้วนำไปใช้ได้

หากอินทรียวัตถุที่นำมาหมักมีเคมีผสมมาก เช่น หอยเชอรี่ ควรเพิ่มปริมาณ EM และกากน้ำตาลให้มากขึ้น 

หลักการหมัก
            - บรรจุให้พอดีกับภาชนะ
            - ปิดฝาสนิท ไม่ให้อากาศเข้าออกได้
            - บางอย่างต้องสับหรือป่นก่อนหมัก
            - หากมีกลิ่นเหม็นต้องเพิ่ม EM และกากน้ำตาลจนกว่าจะหายเหม็น จึงนำไปใช้

วิธีใช้ ผสมน้ำ 500 เท่า (น้ำ 10 ลิตร ใช้ฮอร์โมน 2 ช้อน) ฉีดพ่นเหมือนฮอร์โมนทั่วๆ ไป แต่เน้นที่พื้นดิน จะใช้พ่นที่ใบและต้นบ้างเล็กน้อย ใช้บำรุงดินเป็นอาหารทางรากดีที่สุด
*ต้องใช้ให้หมดภายใน 3 เดือน

หมายเหต
            การจะทำให้เกษตรธรรมชาติมีผลต่อการผลิดอกออกผลนอกฤดูกาล ต้องทำให้ดินสมบูรณ์ ฮอร์โมนเหล่านี้มีประโยชน์ แต่ต้องไม่ลืมบำรุงดินด้วยโบกาฉิ และมีอินทรียวัตถุคลุมดินสม่ำเสมอด้วย ในการหมักบางครั้งผสมรำละเอียดด้วยก็ให้ประโยชน์เพิ่มขึ้น บางครั้งผสมมะกรูดด้วย กลิ่นจะหอม ไม่เหม็น ไม่ทำให้คุณภาพเสื่อม

 


                                         กลับหน้าหลัก